พอดีเมื่อปีที่แล้วเครื่องแอร์ที่บ้านเริ่มไม่เย็น แล้วก็ไปเรียกช่างมาดู ช่างบอกว่าแอร์รั่ว ต้องเติมน้ำยา แต่พอถามว่าใช้ R32 แทน R410A ได้มั้ย เพราะเห็นราคาถูกกว่า ช่างเขาก็ส่ายหัว บอกว่า "ไม่ได้หรอกครับ เดี๋ยวแอร์พัง" ตอนนั้นก็งงๆ เลยไปหาข้อมูลเพิ่ม ปรากฏว่าเรื่องนี้มันลึกกว่าที่คิด วันนี้เลยมาเล่าให้ฟังว่าจริงๆแล้วมันเป็นยังไง
R410A นี่คือน้ำยาแอร์ที่เราเจอกันบ่อยๆ ในเครื่องแอร์รุ่นเก่า มันเป็นการผสมของ R32 กับ R125 ในอัตราส่วน 50:50 นะ คิดง่ายๆ ก็เหมือนกับการผสมน้ำผลไม้ 2 รสชาติมารวมกันตอนแรกทุกคนก็ใช้กันปกติ เพราะมันทำงานได้ดี แต่ปัญหาคือมันไม่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเท่าไหร่ GWP (ค่าที่บอกว่าก๊าซนี้ทำให้โลกร้อนได้แค่ไหน) อยู่ที่ 2,088 สูงมาก
ส่วน R32 นี่เป็นน้ำยาตัวเดียว (ไม่ใช่ของผสม) ซึ่งทำให้มันมีคุณสมบัติที่แตกต่างออกไป ข้อดีคือ:
GWP แค่ 675 (ต่ำกว่า R410A เกือบ 3 เท่า)
ประหยัดไฟกว่า 5-10%
ทำความเย็นได้เร็วกว่า
ใช้น้ำยาน้อยกว่าประมาณ 30%
จริงๆแล้วนี่คือปัญหาใหญ่สุด R32 มีความดันสูงกว่า R410A ประมาณ 5-10% ฟังดูไม่เยอะ แต่สำคัญมากลองจินตนาการดู เครื่องแอร์เป็นเหมือนระบบน้ำในบ้าน ถ้าท่อน้ำออกแบบมาให้รับความดัน 50 บาร์ แล้วเราไปปั๊มน้ำให้ความดัน 60 บาร์ จะเกิดอะไรขึ้น? ท่อแตก วาล์วเสีย อุปกรณ์พัง นั่นแหละ
เพื่อนคนนึงที่ทำช่างแอร์เล่าให้ฟังว่า เคยมีลูกค้าดื้อๆ บอกว่าใช้ R32 แทน R410A ได้ เพราะไปอ่านในเน็ตมา (คล้ายๆกับที่เราคิดกัน) เขาเลยบอกความเสี่ยง แต่ลูกค้าไม่ฟัง ผลออกมาเป็นยังไง? ภายใน 3 เดือน คอมเพรสเซอร์เสีย เพราะทำงานหนักเกิน วาล์วรั่ว ท้ายที่สุดต้องเปลี่ยนเครื่องใหม่ทั้งหมด เสียเงินมากกว่าแค่ซื้อน้ำยาใหม่เยอะ
คำตอบคือ ต้อง "Retrofit" ระบบใหม่หมด ไม่ใช่แค่เปลี่ยนน้ำยา
ขั้นตอนที่ต้องทำ:
เปลี่ยน TXV (วาล์วขยายตัว) ใหม่
ล้างท่อและระบบให้สะอาดหมด
เปลี่ยนน้ำมันคอมเพรสเซอร์ทั้งหมด
ปรับตั้งค่าใหม่
ทดสอบระบบทั้งหมด
ค่าใช้จ่าย? ประมาณ 15,000-25,000 บาท (ขึ้นอยู่กับขนาดเครื่อง) ซึ่งคิดดีๆแล้ว ถ้าจ่ายเงินขนาดนี้ ก็ซื้อเครื่องใหม่ที่รองรับ R32 ตั้งแต่แรกดีกว่า
เรื่องนี้เป็นข้อกังวลของหลายคน เพราะเคยได้ยินว่า R32 ไวไฟ
ความจริงคือ R32 มี "ความไวไฟเล็กน้อย" (A2L Classification) แต่ไม่ได้อันตรายอย่างที่คิด เพราะ:
ต้องมีความเข้มข้นสูงมากถึงจะติดไฟได้
ต้องมีแหล่งจุดระเบิดด้วย
ในการใช้งานปกติแทบไม่เป็นอันตราย
แต่ข้อควรระวังคือ ถ้าแอร์รั่วน้ำยาเยอะๆ ในห้องแคบๆ อย่าสูบบุหรี่หรือจุดไฟใกล้ๆ
ตอนนี้แบรนด์ดังๆเริ่มเปลี่ยนมาใช้ R32 กันเกือบหมดแล้ว เช่น:
Daikin เปลี่ยนมาใช้ R32 ตั้งแต่ปี 2019
Mitsubishi Electric ก็เปลี่ยนตาม
Samsung, LG รุ่นใหม่ๆก็ใช้ R32
เหตุผลง่ายๆ คือรัฐบาลหลายประเทศเริ่มออกกฎให้ลด GWP ของน้ำยาแอร์ R410A เลยค่อยๆถูกยกเลิก
ที่บ้านเปลี่ยนจากเครื่องแอร์เก่าใช้ R410A มาเป็นเครื่องใหม่ R32 เมื่อ 6 เดือนที่แล้ว
ผลคือ:
ค่าไฟลดลงประมาณ 300-500 บาทต่อเดือน (ใช้ประมาณ 8 ชั่วโมงต่อวัน)
ทำความเย็นเร็วกว่าเดิมจริงๆ ประมาณ 20-30%
เสียงเงียบกว่าเดิมด้วย
สิ่งที่สังเกตได้คือ ช่างบอกว่าการบำรุงรักษาเครื่องที่ใช้ R32 ง่ายกว่า เพราะ:
ถ้าน้ำยารั่ว เติมได้เลย (ไม่ต้องดูดทิ้งแล้วเติมใหม่เหมือน R410A)
ตรวจสอบได้ง่ายกว่า
อะไหล่หาได้ง่ายขึ้น
จากที่สังเกตมา ราคา R410A เริ่มขึ้นแล้ว เพราะ
ผู้ผลิตเริ่มหยุดผลิต
การนำเข้าลดลง
กฎหมายเข้มงวดขึ้น
ส่วน R32 ราคาจะค่อยๆลดลง เพราะผลิตกันเยอะขึ้น
ถ้าซื้อใหม่: เลือกเครื่องที่รองรับ R32 เลย อย่าไปซื้อเครื่องเก่าที่ใช้ R410A แม้จะถูกกว่า เพราะในอนาคตจะมีปัญหาหาน้ำยา
ถ้ามีเครื่องเก่าอยู่: ใช้ไปก่อน บำรุงรักษาให้ดีเพื่อไม่ให้รั่ว พอใช้ไม่ได้แล้วค่อยเปลี่ยนใหม่
ถ้าเครื่องเก่ารั่วบ่อย: คิดดูว่าควรซ่อมต่อหรือเปลี่ยนใหม่ ถ้าซ่อมไปแล้ว 2-3 ครั้ง ก็น่าจะเปลี่ยนใหม่ดีกว่า
หลังจากที่ได้ลองใช้และศึกษามา คำตอบคือ R32 กับ R410A ใช้แทนกันไม่ได้ อย่าเสี่ยง
ถ้าอยากได้ประโยชน์ของ R32 มี 2 ทางเลือก
ซื้อเครื่องใหม่ - แนะนำที่สุด คุ้มค่าในระยะยาว
Retrofit - ถ้าเครื่องยังใหม่และแข็งแรง แต่ต้องใช้เงินเยอะ
สำหรับคนที่มีเครื่องเก่าใช้ R410A อยู่ ก็ใช้ไปก่อน แต่เตรียมใจไว้ว่าอีกไม่กี่ปีอาจต้องเปลี่ยนใหม่ เพราะน้ำยา R410A จะหายากและแพงขึ้นเรื่อยๆ
สุดท้ายแล้ว เทคโนโลยีมันพัฒนาไป เราก็ต้องปรับตัวตาม แต่อย่าเพิ่งรีบ ให้ช่างผู้เชี่ยวชาญแนะนำแล้วค่อยตัดสินใจนะ
#สารทำความเย็น #R32 #R410A #น้ำยาแอร์ #ช่างแอร์มือใหม่ #ติดตั้งแอร์ #ซ่อมแอร์ #เทคนิคช่างแอร์ #แอร์ประหยัดไฟ #แอร์บ้าน #AirConditioner #ACService #ACRepair #เทคนิคช่าง #สิ่งแวดล้อม #GWP #ความรู้ช่างแอร์ #ช่างแอร์ #ระบบทำความเย็น #เครื่องปรับอากาศ